คณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เกี่ยวกับบทบาทคณะกรรมาธิการสามัญ ประจำสภาผู้แทนราษฎร กับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ระหว่างวันที่ 27-28 กันยายน 2563
โดยในวันแรก วันที่ 27 กันยายน 2563 เวลา 14.30 น คณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายอนันต์ ผลอำนวย ประธานคณะกรรมาธิการ พร้อมด้วย นายฐิตินันท์ แสงนาค รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สาม, นายเอี่ยม ทองใจสดกรรมาธิการและที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ , ที่ปรึกษา ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ และนักวิชาการประจำคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร, และข้าราชการ พนักงานรัฐสภา ได้เข้าเยี่ยมและร่วมประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น กับ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเพชรบูรณ์ นายเรวัต แสงวิจิตร และนายวิศัลย์ โฆษิตานนท์ ณ ห้องประชุมมูลนิธิพระพุทธมหาธรรมราชาเฉลิมพระเกียรติฯ อุทยานเพชบุระ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมี นายวรโชติ สุคนธ์ขจร ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ และนางนฤมล วรกมล ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ ให้การต้อนรับ
การร่วมประชุมครั้งนี้ เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะเกี่ยวกับ การพัฒนาและปรับปรุงการดำเนินกิจการของสภา และกองทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา จากอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้ง 2 ท่าน
โดยนายวิศัลย์ โฆษิตานนท์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้นำเสนอเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ใน 2 ประเด็นหลัก คือ
1.ควรมีตัวแทนของฝ่ายนิติบัญญัติ ประจำอยู่ที่จังหวัด เพื่อช่วยในการประสานงานกับจังหวัด ในการให้คำแนะนำและช่วยเหลือประชาชน เช่น การเข้าชื่อเสนอกฎหมาย การยื่นญัตติ การช่วยสื่อสารระหว่างการทำงานของรัฐสภา กับภาคประชาชน (เป็นการเมืองภาคพลเมือง) รวมทั้งการเผยแพร่การทำงานของรัฐสภา อีกทางหนึ่ง
2. เรื่องเบี้ยยังชีพของสมาชิกฯ (พรบ.กองทุนสงเคราะห์ฯ) ทั้งนี้ เพื่อทรงเกียรติของความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากในสมัยที่ยังดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก โดยเบี้ยยังชีพอาจจะเป็นจำนวนไม่มากนัก แต่ควรเป็นการจ่ายให้สมาชิกตลอดชีพ
ด้าน นายเรวัต แสงวิจิตร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเพชรบูรณ์ได้นำเสนอเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ใน 4 ประเด็นหลัก คือ
1.ประเด็นต่อเนื่องจาก อดีต ส.ส.วิศัลย์ฯ โดยเสริมเพิ่มเติมเหตุผล กรณีการมีเบี้ยยังชีพ ให้อดีต ส.ส. เนื่องจาก ค่าใช้จ่ายของสมาชิกฯ บางคน ที่ไม่มีที่พักอาศัยอยู่ใน กทม.ทำให้การเดินทางไปประชุมแต่ละครั้ง มีภาระค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น ในเรื่องของค่าเช่าบ้าน ค่าเดินทาง และอื่นๆ โดยหลังจากไม่ได้ดำรงตำแหน่ง ส.ส.แล้ว ก็ไม่มีอาชีพอื่น ดังนั้น เพื่อให้อดีต ส.ส. สามารถดำรงชีพอยู่ได้ อย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และเพื่อให้ผู้ที่มีความสนใจ ที่จะเข้ามาทำงานการเมือง ได้มีความหวัง มีขวัญกำลังใจ และตั้งใจทำงานในทางการเมืองต่อไป
2. การส่งเสริมอาชีพให้กับอดีต ส.ส. เนื่องจากหลายคนที่ทำงานการเมือง และไม่มีอาชีพสำรอง ทำให้หลังจากไม่ได้เป็นส.ส. ก็จะไม่มีงานทำ จึงมีควรมีการส่งเสริมให้มีการประกอบอาชีพ เช่น เรื่องการให้กู้เงินทุนเพื่อการประกอบอาชีพ ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ
3. การเสนอขอเครื่องราชฯ ให้กับ อดีต ส.ส. โดยควรมีการผลักดันให้แก้กฎระเบียบในเรื่องนี้ เนื่องจาก อดีต ส.ส.หลายท่าน ได้กลับมาทำงานรับใช้สังคม ทำงานด้านจิตอาสา ซึ่งถือว่าเป็นการทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติและสังคมส่วนรวม
4. ควรมีการเชิญอดีต ส.ส.ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในวันสำคัญต่างๆ ของรัฐสภา เพื่อทำให้อดีต ส.ส.ได้มีส่วนร่วม ในกิจกรรม ของรัฐสภา
ทั้งนี้ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร ได้รับฟังข้อเสนอในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นดังกล่าว เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา ในการช่วยเหลือด้านสวัสดิการแก่อดีต ส.ส. ผู้ที่ประกอบคุณงามความดี และทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติ ตามบทบาทอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
_________________________
เพลินจิต สวนศิลป์พงศ์ : ข่าว
ปรีชา ศรีบุปผา : ภาพ
สวท.เพชรบูรณ์
|