รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายนิพนธ์ บุญญามณี) และผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายนราพัฒน์ แก้วทอง) ลงพื้นที่มอบสิ่งของและเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พื้นที่อำเภอหล่มเก่าและหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ 

 
        วันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๔ เวลา ๑๐.3๐ น.รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายนิพนธ์ บุญญามณี) และผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายนราพัฒน์ แก้วทอง) ลงพื้นที่มอบสิ่งของและเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พื้นที่อำเภอหล่มเก่าและหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ 
ซึ่งมีนายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมรองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นายอำเภอหล่มสัก นายอำเภอหล่มสัก อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเพชรบูรณ์ หัวหน้าส่วนราชการ และผู้นำท้องที่ ร่วมต้อนรับ 
        โดยการลงพื้นที่ของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ครั้งนี้ ได้ลงพื้นที่จำนวน 3 จุด โดยจุดแรก ณ โรงเรียนหล่มเก่าพิทยาคม อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รายงานถึงสถานการณ์อุทกภัยทั้ง ๒ อำเภอ ที่ส่งผลกระทบทำให้บ้านเรือนราษฎรและพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหาย โดยอำเภอหล่มเก่า บ้านเรือนราษฎรได้รับผลกระทบ ๓ ตำบล ๘ หมู่บ้าน
๔๐๖ หลังคาเรือน และพื้นที่ทางการเกษตรได้รับผลกระทบรวม ๓ พันไร่เศษ ส่วน
อำเภอหล่มสัก บ้านเรือนราษฎรได้รับผลกระทบ ๗ ตำบล ๔๓ หมู่บ้าน 2 เทศบาล ๒,๐๐0 ครัวเรือน และพื้นที่ทางการเกษตรได้รับผลกระทบ จำนวน ๗ พันไร่เศษ
โดยมีผู้เสียชีวิตในพื้นที่ อ.หล่มสัก จำนวน ๑ ราย โดยขณะนี้สถานการณ์ดังกล่าวเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว เหลือเพียงพื้นที่ทางตอนใต้ที่ยังคงมีน้ำเอ่อล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนราษฎรอยู่ ซึ่งอยู่ในระหว่างสำรวจความเสียหายและช่วยเหลือเยียวยา
 
         ณ จุดนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้พบปะให้กำลังใจกับประชาชนผู้ประสบอุทกภัย พร้อมมอบเงินเยียวยาแก่ผู้ประสบภัย จำนวน ๑๓๘ ราย รวมเป็นเงิน ๑,๙๑๑,๒๐๐บาท (หนึ่งล้านเก้าแสนหนึ่งหมื่นหนึ่งพันสองร้อยบาทถ้วน),
มอบปัจจัยการผลิตแก่เกษตรกรโครงการ ๑ ตำบล ๑ กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่
ตำบลนาเกาะ ได้แก่ พันธุ์ปลา และปอเทือง (เพื่อปรับปรุงบำรุงดิน) จำนวน ๖ ราย,มอบสารเร่ง พด. ๑, ๒, ๓,๖,๗ จำนวน ๑๕๐ ชุด, และมอบน้ำหมักชีวภาพ จำนวน ๑๕๐ ชุด
 
          จุดที่ 2 ณ องค์การบริหารส่วนตำบลสักหลง อำเภอหล่มสัก มีนายณรงค์ศักดิ์ หอมมาลัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวต้อนรับ และรายงานสถานการณ์อุทกภัย โดยในเขตพื้นที่ตำบลสักหลง มีประชาชน
ได้รับผลกระทบ ประมาณ ๕๕๗ ครัวเรือน ซึ่งอำเภอหล่มสัก ได้นำประชาชน
ที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลสักหลง มารับถุงยังชีพเพียงส่วนหนึ่งคือ จำนวน
๑00 คน เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ โดยจุดนี้ได้มอบเงินช่วยเหลือแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย ในพื้นที่อำเภอหล่มสัก 1 ราย ,มอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัยของตำบลสักหลง ,มอบหญ้าแห้งแก่สหกรณ์โคนมหล่มสัก จำนวน ๒๕ ฟ่อน และมอบให้ เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย จำนวน ๒๕๐ ฟ่อน, มอบสารเร่ง พด. ๑, ๒, ๓,๖,๗ จำนวน ๑๕๐ ชุด และมอบน้ำ หมักชีวภาพ จำนวน ๑๕๐ ชุด
         และจุดที่ 3 ณ วัดศรีจันทราราม ตำบลปากดุก อำเภอหล่มสัก
มีนายสืบพงษ์ นิ่มพูลสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวต้อนรับและรายงานสถานการณ์อุทกภัย โดยในเขตพื้นที่ตำบลปากดุก มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม ประมาณ ๔๔๗ ครัวเรือน และได้นำประชาชน
ที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลปากดุก มารับถุงยังชีพเพียงส่วนหนึ่ง
คือ จำนวน ๑00 คน เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
 
         จากการลงพื้นที่ครั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีความห่วงใย และทราบถึงความลำบากของประชาชน ที่ประสบปัญหาอุทกภัยอยู่ในขณะนี้ตลอดเวลา ขอให้กำลังใจแก่ประชาชนทุกท่าน ให้มีกำลังใจในการต่อสู้ กับความยากลำบากที่เกิดขึ้นในห้วงเวลานี้ สิ่งใดที่กระทรวงมหาดไทย หรือรัฐบาลสามารถช่วยเหลือประชาชนได้ในอนาคต กระทรวงมหาดไทย หรือรัฐบาลยินดีให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง
สุดความสามารถ สิ่งใดที่เป็นปัญหา หรือมีแนวทางแก้ไขปัญหาใด ๆ ขอให้เสนอให้รัฐบาลพิจารณา โดยเสนอผ่านทางจังหวัด นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการสำรวจพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายเพื่อเร่งรัดเงินเยียวยาผู้ประสบภัยตามระเบียบทางราชการ และการฟื้นฟูหลังน้ำลดให้กลับสู่ภาวะปกติ และให้ดูแลความปลอดภัยของประชาชนเป็นอันดับแรก พร้อมขอให้จังหวัดวางแผนและเตรียมความพร้อมต่อสถานการณ์ ที่อาจทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงมรสุม  และเน้นย้ำว่ารัฐบาลพร้อมให้การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนอย่างเต็มที่ และจะดูแลประชาชนอย่างดีที่สุด เพื่อให้ก้าวพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ การบริหารจัดน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งน้ำเพื่อการเกษตรและอุปโภคบริโภคส่วนใหญ่อาศัยน้ำฝนเป็นหลัก โดยปัญหาที่เกิดขึ้นคือไม่สามารถกักเก็บไว้ใช้ในฤดูแล้งของปีถัดไปได้ ซึ่งตนได้ให้นโยบายเรื่องนี้มาโดยตลอดคือการ สร้างที่ให้น้ำอยู่ ทำทางให้น้ำไหล สร้างที่ให้น้ำอยู่คือเก็บกักน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง ส่วนทำทางให้น้ำไหลคือจัดการสิ่งกีดขวางทางน้ำเพื่อให้สามารถระบายได้เร็วขึ้นไม่ให้เกิดการเอ่อท่วมล้นสร้างความเสียหายให้แก่บ้านประชาชนเมื่อเข้าสู่ฤดูน้ำหลาก ดังนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องไปบริหารจัดการเพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนจากภัยแล้งและอุทกภัย
       นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังได้กล่าวถึงการช่วยเหลือเกษตรกร กับโครงการประกันราคาพืชผลทางการเกษตร ตามนโยบายเกษตรผลิตพาณิชย์ขาย ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกร ขายผลผลิตได้ในราคาไม่ต่ำกว่าราคาประกัน ทำให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในระดับหนึ่ง   พร้อมนี้ได้กล่าวขอบคุณและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย รวมทั้งภาคเอกชน และอาสาสมัครทุกกลุ่ม ที่มีส่วนช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่


--------------------------------------
เพลินจิต  สวนศิลป์พงศ์ : ข่าว/ภาพ
สวท.เพชรบูรณ์