เรื่อง จัดระบบโครงการแปลงใหญ่ยกระดับคุณภาพผลผลิตสินค้าเกษตร
นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายปฏิรูปภาคการเกษตร มีเป้าหมายสำคัญเพื่อยกระดับเกษตรกรให้มีรายได้และมีความภาคภูมิใจในอาชีพการเกษตร ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิต และ ยกมาตรฐานคุณภาพสินค้าเกษตรให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค
ที่ผ่านมา ผลการดำเนินการที่ประสบผลสำเร็จจากการทำเกษตรในรูปแบบแปลงใหญ่ชัดเจนในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในจังหวัดจันทบุรี ภายใต้การดำเนิน 4 หัวข้อหลัก ได้แก่ การจัดทำแผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุก หรือ Agri-Map เพื่อบ่งชี้ความเหมาะสมของพื้นที่ทำการเกษตร ซึ่งในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีมีสินค้าเกษตรสำคัญคือ ทุเรียน เงาะ มังคุด ลำไย มันสำปะหลัง และยางพารา รวมพื้นที่ 1.77 ล้านไร่ จัดตั้งศูนย์เรียนรู้ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร หรือ ศพก. อำเภอละ 1 ศูนย์ ซึ่ง ศพก.จะเป็น ผู้ที่ถ่ายทอดความรู้ในการทำเกษตรที่เหมาะสมให้กับเกษตรกรในพื้นที่ ส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกรเพื่อทำเกษตรแปลงใหญ่ ส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่รวมกลุ่มกันบริหารจัดการและทำการตลาด ใน 2 ปีที่ผ่านมามีเกษตรแปลบงใหญ่ทั้งประเทศ 2,138 แปลง รวมพื้นที่ 3.10 ล้านไร่ การพัฒนาแหล่งน้ำและระบบกระจายน้ำ
ทั้งนี้ การประเมินผลการดำเนินการของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ยังพบว่า การทำเกษตรแปลงใหญ่โดยการนำของเอกชนและ การนำของภาครัฐทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นรวม 4,864.94 ล้านบาท/ปี ตัวอย่างการทำเกษตรแปลงใหญ่มังคุด อ.เขาคิชฌกูฎ จ.จันทบุรี หลังจากรวมเป็นแปลงใหญ่มังคุดทำให้ได้กำไรหมุนเวียน เนื่องจากมีการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพมากขึ้น มีอำนาจต่อรองราคาสามารถประสานงานกับผู้ประกอบการได้เอง ปี 2561 วางเป้าที่จะใช้ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพ
การผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) เข้าไปช่วยผลิตมังคุดคุณภาพให้เป็นที่พอใจของตลาดและสามารถประมูลได้ราคาดีขึ้นเพื่อให้มีการผลิตผลไม้คุณภาพ สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ภายใต้ระบบการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เน้นเป็นนโยบายหลักเพื่อให้เกษตรกรสามารถอยู่ได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
ในส่วนของนาแปลงใหญ่ ปี 2560 ใน 9 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร ตาก สุโขทัย นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ พิจิตร และจังหวัดอุทัยธานี ในส่วนของการขับเคลื่อนการดำเนินงานปี 2561 การดำเนินงานยึดพื้นที่ เป็นหลัก (area-based approach) ต้องมีการบูรณาการระหว่างหน่วยงานอย่างเป็นรูปธรรม มีผู้จัดการแปลงเป็นผู้บริหารจัดการพื้นที่ในทุกกิจกรรม ตลอด supply chain ของสินค้า นั้น ๆ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของงานส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ จึงได้เตรียมความพร้อมสร้างความรับรู้ความเข้าใจในวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ให้แก่กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และกลุ่มสหกรณ์ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการต่อไป.
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|