เรื่อง ปฏิรูปอุตสาหกรรม ขับเคลื่อนเอสเอ็มอีสู่ยุค 4.0
ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจไทยกำลังต้องการแรงขับเคลื่อนใหม่ เพื่อยกระดับไปสู่ฐานเศรษฐกิจที่ใหญ่ขึ้นและขยายตัวอย่างยั่งยืน ท่ามกลางเทคโนโลยีการผลิตโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว การปรับตัวในภาคอุตสาหกรรมจึงเป็นกลไกสำคัญยิ่ง ขณะเดียวกัน การสร้างโอกาสเพื่อดึงดูดเม็ดเงินลงทุนและนักลงทุนจากต่างประเทศ เป็นอีกหนทางเพื่อยกระดับขีดความสามารถของอุตสาหกรรมไทยให้ไปถึงอุตสาหกรรมยุค 4.0
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า นโยบายการปฏิรูปเศรษฐกิจไทยได้รับการจับตาจากนักลงทุนต่างชาติและองค์กรระหว่างประเทศ ยังมีนักลงทุนจำนวนหนึ่งที่สนใจเข้ามาลงทุนในไทย เนื่องจากไทยเป็นพื้นที่ศูนย์กลาง ทางภูมิศาสตร์ของเอเชีย มีนโยบายเปิดรับการลงทุนที่ชัดเจน รวมทั้งดูแลเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาดีกว่าหลายประเทศ เมื่อต้นเดือนธันวาคมนี้ได้เข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญ สมัยที่ 17 ขององค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (UNIDO) ประเทศออสเตรีย โดยยูนิโดให้ไทยนำเสนอวิสัยทัศน์ไทยแลนด์ 4.0 โดยเฉพาะการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย และการลงทุนของเขตเศรษฐกิจพิเศษอีอีซี และมีโอกาสเจรจากับหอการค้าและบริษัทเอกชนชั้นนำระดับโลกของออสเตรีย รวมถึงนักลงทุนสัญชาติออสเตรียที่สนใจลงทุนในอุตสาหกรรมสิ่งทอ เชื่อมโลหะ ยานยนต์ ตลอดจนผู้ให้บริการปรึกษาธุรกิจ ทั้งนี้ ยูนิโดเตรียมจัดตั้งสำนักงานเพื่อการส่งเสริมการลงทุนแห่งแรกในอาเซียนที่ประเทศไทย เพื่อผลักดันให้เป็นศูนย์กลางเสริมศักยภาพและกระจายความรู้ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและตะวันออกกลาง นอกจากจะช่วยประเทศไทยให้เชื่อมโยงการลงทุนจากนักลงทุนกลุ่มสมาชิกยูนิโดแล้ว ยังจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนบ้านอาเซียนที่จะร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมและยั่งยืนด้วย
ล่าสุด ที่ประชุมหามาตรการพิเศษเพื่อขับเคลื่อนเอสเอ็มอีสู่ยุค 4.0 จัดหามาตรการช่วยเหลือทางการเงินและการให้คำปรึกษาไปยังระดับฐานราก เน้นหยั่งรากลึกสู่ เอสเอ็มอีระดับชุมชน อาทิ การเชื่อมโยงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการให้มีมาตรฐานสากล พัฒนาการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรในท้องที่ ในปี 2561 การพัฒนา เอสเอ็มอีเน้นกลุ่มฐานรากมากขึ้นเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชนมุ่งสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตามความต้องการของโรงงานอุตสาหกรรมและผู้บริโภค ให้ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 25 เปอร์เซ็นต์
นอกจากมาตรการทางการเงิน ยังหามาตรการเพื่อให้เอสเอ็มอีมีความเข้มแข็ง พร้อมนำความรู้ไปต่อยอดพัฒนานวัตกรรม การผลิตและช่องทางการค้าที่มีอยู่ โดยสร้างกลไกสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจที่จะยกระดับศูนย์ปฏิบัติการอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังเสริม ความแกร่งด้วยการผลักดันให้เอสเอ็มอีมีระบบบริหารจัดการไปสู่เอสเอ็มอี 4.0 โดยจัดกำลังคนที่เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีผ่านการสรรหาจากกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายทั้งในและต่างประเทศมาช่วยแก้ปัญหาด้านการผลิตและมาตรฐานหรือเป็นโค้ชในการพัฒนา ที่สำคัญจัดทำแพลตฟอร์ม SME Big Data เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงบริการฐานข้อมูลกลาง นำไปสู่โครงการการให้ความช่วยเหลือที่ตรงกับความต้องการการพัฒนาแต่ละด้าน และ องค์ความรู้ใหม่ผ่านช่องทาง SME One Portal รวมทั้งการเพิ่มขีดความสามารถและการปรับเปลี่ยนธุรกิจภายใต้กลไกประชารัฐที่เน้นเชื่อมโยงองค์กรธุรกิจชั้นนำระดับโลก
การนำทัพเอสเอ็มอีไทยสู่ตลาดโลกเชื่อมโยงเอสเอ็มอีไทยกับต่างชาติเพื่อให้เกิดการช่วยเหลือและถ่ายทอดเทคโนโลยี โดยจะสร้างแพลตฟอร์มหรือระบบเชื่อมโยงธุรกิจและผู้ประกอบการไทย ช่วยให้เกิดการจับคู่ออนไลน์ (B2B) ระหว่างผู้ประกอบการไทยกับ เอสเอ็มอีในต่างประเทศ นอกจากการสนับสนุนเอสเอ็มอีแล้ว รัฐบาลยังต้องการผลักดันให้เกิดการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปสู่ฐานการลงทุนด้านอุตสาหกรรมของโลก เน้นการเพิ่มมูลค่า มีนวัตกรรมเทคโนโลยีการผลิตในระดับสูง.
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|