เรื่อง การจัดงานวันเด็กแห่งชาติของประเทศไทย
วันเด็กแห่งชาติ ถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งที่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกจัดให้มีขึ้น เนื่องจากเห็นความสำคัญของเด็กที่ในอนาคตจะเป็นกำลังสำคัญของชาติ
วันเด็กแห่งชาติในประเทศไทย ตรงกับวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมของทุกปี เป็นวันหยุดราชการที่ไม่ได้ชดเชยในวันทำงานถัดไป ซึ่งทุกปีนายกรัฐมนตรีจะให้คำขวัญวันเด็กและเปิดทำเนียบรัฐบาลให้เด็ก ๆ ได้เข้าเยี่ยมชม พร้อมทั้งจัดจัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้เด็ก ๆ ได้รับความรู้และความสนุกสนาน
การจัดงานวันเด็กเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๘ ที่ทั่วโลกเริ่มจัดงานเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติกันขึ้น สำหรับประเทศไทยได้รับข้อเสนอของ วี เอ็ม กุลกานี ผู้แทนองค์กรสมาพันธ์เพื่อสวัสดิภาพเด็กระหว่างประเทศ ผ่านมาทางกรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงมหาดไทย ว่าประเทศไทยควรจัดงานเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเห็นความสำคัญของเด็กให้มากขึ้นดังที่นานาประเทศกำลังทำอยู่ ในที่สุดคณะรัฐมนตรีได้มีมติรับหลักการให้จัดงานวันเด็กแห่งชาติขึ้น เมื่อวันที่ ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๘ โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงศึกษาธิการรับไปดำเนินการ ส่วนของค่าใช้จ่ายในการจัดงานนั้น ได้อนุมัติเงินจากกองสลากกินแบ่งรัฐบาลมาดำเนินการ ดังนั้นในวันที่ ๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๙๘ ประเทศไทยจึงมีงาน เฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก จากนั้นเป็นต้นมา ได้กำหนดให้วันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมของทุกปีเป็นวันเด็กแห่งชาติและจัดติดต่อกันมาจนถึงปี พ.ศ. ๒๕๐๖ ที่ประชุมคณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติในปีนั้นได้มีความเห็นพ้องกันว่า ควรที่จะเปลี่ยนวันจัดงานวันเด็กแห่งชาติ เนื่องจากในเดือนตุลาคมประเทศไทยยังอยู่ในฤดูฝนทำให้มีฝนตกมากเด็กไม่สะดวกในการมาร่วมงาน อีกทั้งวันจันทร์ยังเป็นวันปฏิบัติงานของผู้ปกครองจึงไม่สามารถพาบุตรหลานของตนไปร่วมงานได้ และเห็นควรกำหนดให้จัดวันเด็กในช่วงต้นปี เพราะทุกภาคส่วนจะต้องให้ความสำคัญกับเด็กเป็นอันดับแรก
ดังนั้น เมื่อวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๐๗ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติเสนอ ประกาศเปลี่ยนงานฉลองวันเด็กแห่งชาติจากวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม มาเป็นวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมเป็นต้นมา
สำหรับในปี ๒๕๖๑ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบคำขวัญวันเด็ก "รู้คิด รู้เท่าทัน สร้างสรรค์เทคโนโลยี" เพื่อให้เด็กและเยาวชนทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของตนเอง และขอให้ตั้งใจใฝ่ศึกษาเล่าเรียน หมั่นฝึกฝนพัฒนาตนเอง อยู่เสมอและพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ รวมทั้งรู้จักการใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างสร้างสรรค์ มีความรับผิดชอบต่อสังคม ตลอดจนเป็นผู้มีความกตัญญูรู้คุณต่อพ่อแม่ ผู้มีพระคุณ ครูอาจารย์ และพร้อมจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและคุณธรรมของประเทศชาติต่อไป
โดย เพ็ญกมล ประเสริฐกุล
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|