เรื่อง การแก้ไขกฎหมายควบคุมแอลกอฮอล์ให้ทันสมัย
ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า พิษภัยจากการดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุ บนท้องถนน และปัญหาสังคมมากมาย ดังนั้น การควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึงเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงฯ และถือเป็นปัญหาระดับชาติเร่งด่วนที่ต้องช่วยกันแก้ไข โดยพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้บังคับใช้มาจนครบรอบ 10 ปี ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561 นี้ ซึ่งในทศวรรษที่ 2 เป้าหมายระดับชาติจะต้องเพิ่มความเข้มข้น ในการลดปริมาณการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ได้ ต้องดำเนินการมาตรการต่าง ๆ อย่างเข้มแข็ง ครอบคลุมทุกมิติเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ลดความชุกการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยร่วมมือกับภาคีเครือข่ายจำกัดการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเด็กและเยาวชน และพัฒนาอนุบัญญัติกฎหมายตามพระราชบัญญัติควบคุมแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ให้ครอบคลุมและทันสมัย
เภสัชกรสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า ภาคธุรกิจน้ำเมามีการเสนอขอแก้ไขพระราชบัญญัติ โดยให้ขยายเวลาในการขยายเวลาในการขาย และการส่งเสริมการขายและการตลาด เพื่อให้สามารถเลี่ยงการโฆษณาและลด แลก แจก แถม ซึ่ง 10 ปีของการมีพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มีผลงานดีพอสมควร แม้จะไม่ดีเท่ากฎหมายในการควบคุมยาสูบ เพราะ ยังอนุญาตให้มีการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ และบางส่วนมีการพยายามเลี่ยงข้อกฎหมาย เครือข่ายฯ จึงต้องการให้มีการแก้ไขกฎหมายให้ดีขึ้น โดยเฉพาะการห้ามไม่ให้มีการโฆษณาหรือส่งเสริมการขายผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย เพราะประชาชนเข้าถึงได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่เพียงเป็นอันตรายต่อร่างกายผู้ที่ดื่มเท่านั้น แต่ยังสร้างผลกระทบต่อปัญหาสังคมด้วย ซึ่งในแต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิตจากการดื่มถึง 5 หมื่นคน เคยมีการศึกษาพบว่า ภาษีของประเทศที่จัดเก็บได้จากธุรกิจเหล้าจำนวน 8 หมื่นล้านบาท ไม่คุ้มค่า เพราะรัฐต้องสูญเสียงบประมาณในการดูแลผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นเงินถึง 1.5 แสนล้านบาท เท่ากับมีรายได้ 1 บาท แต่ต้องสูญเสียไป 2 บาท.
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|