เรื่อง แผนการปฏิรูปประเทศ 11 ด้าน
การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2561 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะเดินหน้าขับเคลื่อนแผนงานปฏิรูปประเทศไปในทิศทางที่แก้ปัญหาได้ตามความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งทุก ภาคส่วนมีบทบาทสำคัญในการปฏิบัติ และย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงต้องอาศัยระยะเวลาและสร้างความรับรู้ ความเข้าใจกับประชาชน นอกจากนี้ให้ข้าราชการทุกคนทบทวนบทบาท ในฐานะผู้ปฏิบัติอันเป็นจุดเริ่มต้นในการขับเคลื่อนร่วมกับภาคเอกชน และประชาชนในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ปัญหาการอำนวยความสะดวก ปัญหาการลงทุน หรือสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่สำคัญต้องไม่ให้ปัญหานำมาซึ่งความวุ่นวายมากกว่าเดิม
การปฏิรูปมีทั้งระยะสั้น กลาง และระยะยาว ดำเนินการตามแผนปฏิรูป ที่กำหนดไว้อย่างต่อเนื่อง เรื่องใดที่ดำเนินการได้ก่อนให้ดำเนินการตามขั้นตอน เรื่องใดติดขัดในข้อกฎหมายหรือต้องหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจะได้มีการพูดคุยกัน สามารถชี้แจงเหตุผลไปที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งเป็นฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศให้ปรับปรุงแก้ไขแผนฯ ได้ ซึ่งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศยังคงทำหน้าที่ต่อไปอีก 4 ปีเพื่อคอยกำกับ ติดตาม ผลักดัน ให้การปฏิรูปประเทศเป็นไปตามแผนฯ สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละช่วง และสอดคล้องกับ แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ตัวอย่างความคืบหน้าการปฏิรูป เช่น การแก้ไขปัญหา IUU/ICAO การแก้ปัญหาคลองลาดพร้าว (การจัดสรรที่ดิน) การยึดคืนผืนป่าและฟื้นฟู ป่าเสื่อมโทรม การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่น โครงการเน็ตประชารัฐ กองทุนเพื่อความเสมอภาค ทางการศึกษา การยกระดับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ส่วนเรื่องการเกษียณอายุราชการ ตามแผนปฏิรูปประเทศ ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2561โดยระบุเกษียณอายุที่ 63 ปีนั้น ในทางปฏิบัติจะมีผลเมื่อสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) พิจารณากำหนดรายละเอียด ปรับแก้กฎหมาย และประกาศบังคับใช้ ซึ่งข้อเสนอนี้เกิดจากคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสังคมต้องการให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีรายได้ ประกอบกับผู้สูงอายุในปัจจุบันเมื่อเกษียณอายุแล้วยังมีสุขภาพแข็งแรง และ มีศักยภาพในการทำงาน
แผนการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. 2561-2564 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 258 ให้ความสำคัญกับการปฏิรูปประเทศ และให้มีการปฏิรูป 11 ด้าน คือ ด้านการเมือง ด้านบริหารราชการแผ่นดิน ด้านกฎหมาย ด้านกระบวนการยุติธรรม ด้านเศรษฐกิจ ด้านทรัพยากรธรรมชาติ ด้านสาธารณสุข ด้านสื่อสารมวลชน/เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านสังคม ด้านพลังงาน และด้านป้องกันและปราบปรามการทุจริต ตัวอย่าง การปฏิรูปด้านการเมือง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 258 ให้ความสำคัญกับการปฏิรูปประเทศและบัญญัติการปฏิรูปทั้ง 11 ด้านนั้น คาดหวังให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย มีส่วนร่วมกิจกรรมทางการเมือง ตลอดจนการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ยอมรับในความคิดเห็น ที่แตกต่าง ให้ประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้งและออกเสียงโดยอิสระ ปราศจากการครอบงำ โดยให้ความสำคัญใน 5 ประเด็น เช่น การเสริมสร้างวัฒนธรรมทางการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน, การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งโดยสันติวิธีและรู้รักสามัคคีของสังคมไทย, การกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่น การจัดสรรทรัพยากรที่เป็นธรรม, การเลือกตั้ง ที่สุจริตและเที่ยงธรรม และการสร้างรัฐธรรมาธิปไตย
ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากการปฏิรูปทางการเมืองคือ มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครอง, ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและรับผิดชอบต่อประชาชน แก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองโดยสันติวิธี.
โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|