รัฐบาลดิจิทัลขับเคลื่อนสู่ไทยแลนด์ 4.0
.
ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงของการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศเพื่อยกระดับขีดความสามารถของระบบการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ในการปรับเปลี่ยนภาครัฐให้กลายเป็นรัฐบาลดิจิทัลเป็นการดำเนินตามนโยบายรัฐบาลที่มุ่งสนับสนุนการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศไทยให้ประสบผลสำเร็จ รัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการใช้เทคโนโลยีดิจิตัล เพื่อปรับเปลี่ยนการทำงานและวิธีการให้บริการ เพื่อก้าวสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น
.
เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2561 ครม.มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยรัฐบาลดิจิทัลมีสาระสำคัญให้มีกฎหมายว่าด้วยรัฐบาลดิจิทัลโดยให้หน่วยงานของรัฐจัดทำข้อมูลและบริการในรูปแบบดิจิทัล แลกเปลี่ยนและเชื่อมโยงข้อมูลของหน่วยงานของรัฐ และเปิดเผยข้อมูลเปิดภาครัฐในรูปแบบดิจิทัลเพื่อตอบรับเป็นรัฐบาล 4.0 โครงการสำคัญที่ขับเคลื่อนผ่านแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ได้แก่
.
พร้อมเพย์ ช่วยในการรับสวัสดิการ ไม่ต้องเข้าคิวรับเงินสดหรือไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมโอนเงินแพงๆ มีการแบ่งเบาค่าใช้จ่ายต่างๆของผู้มีรายได้น้อย จากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและบัตรแมงมุมที่ช่วยให้การเดินทางสาธารณะไม่ต้องยุ่งยากอีกต่อไป
.
แอปพลิเคชัน RDU รู้เรื่องยา ให้บันทึกข้อมูลการใช้ยาของตนเองผ่าน QR โค้ดบนซองยาได้ ประชาชนที่อยู่ห่างไกล เปลี่ยนไกลเป็นใกล้ด้วยระบบการแพร่ทางไกล พร้อมกับ อ.ม.ส ออนไลน์ ที่จะมาช่วยดูแลสุขภาพทุกพื้นที่อย่างใกล้ชิด
.
แอปพลิเคชัน SSO Connect ก็สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผู้ประกันตน ดูยอดเงินสะสมชราภาพได้ทันที
.
แอปพลิเคชันsmart job center ช่วยให้หางานง่ายขึ้นและช่วยสร้างงานให้คนไทยกว่าหนึ่งแสนตำแหน่ง
จากนี้ไม่ต้องหอบเอกสารมากมายไปติดต่อราชการเพียงใช้บัตรประชาชนก็ติดต่อทำธุรกรรมภาครัฐได้กว่า 45 บริการ จะช่วยให้การขอสำเนาเอกสารกระดาษค่อยๆหมดไปในที่สุด
.
สำหรับพี่น้องเกษตรกรมีระบบแผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุกที่ให้ข้อมูลด้านการเกษตรในทุกมิติ สามารถแก้ปัญหาเกษตรกรรายพื้นที่ได้ ในยุคสมาร์ทโฟนด้วยบริการอัจฉริยะภาครัฐ ส่งแอปพลิเคชันช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการภาครัฐได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส
.
แอปพลิเคชัน“ภาษีไปไหน” ทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความโปร่งใสให้เกิดในภาครัฐได้ ศูนย์กลางบริการภาครัฐและภาคธุรกิจ สนับสนุนและอำนวยความสะดวกแบบครบวงจร ช่วยให้ต่อยอดสู่การลงทุนได้ง่าย ยื่นภาษีออนไลน์ก็ไม่ติดขัด ซื้อขายคล่อง ยื่นใบภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะนำไปสู่การไม่ใช้เอกสารในที่สุด
.
การเดินทางติดต่อค้าขายไม่ต้องรอนานด้วยบริการระบบการตรวจลงตราแบบอิเล็กทรอนิกส์เสริมศักยภาพวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเต็มที่ด้วยบริการดิจิทัล
.
เน็ตประชารัฐเปิดโอกาสให้ประชาชน เข้าถึงอินเทอร์เน็ตถึง 24,700 หมู่บ้าน ที่ความเร็วไม่ต่ำกว่า 30 เมกกะบิต ให้ชุมชนได้เรียนรู้เรียนเทคโนโลยีผ่านสู่ดิจิทัลชุมชน พร้อมความมั่นคงทางไฟฟ้าด้วยระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ
.
ความใส่ใจของรัฐบาลด้านความมั่นคงปลอดภัยของประชาชน ทั้งการเดินทางสบายใจด้วยระบบการติด GPS รถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก กว่าสองแสนคัน การดูแลป้องกันผู้ร้ายข้ามแดนด้วยระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้าและการพิสูจน์ตัวตนทางชีวภาพสำหรับประชาชนและชาวต่างชาติที่เข้าออกประเทศ
GovChannel เป็นศูนย์กลางในการเข้าถึงข้อมูลและบริการอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐของหน่วยงานต่างๆ ได้จากจุดเดียว โดยประชาชนที่สะดวกเข้าถึงบริการภาครัฐด้วย “คอมพิวเตอร์”สามารถเข้าถึงบริการภาครัฐที่จัดทำเป็นเว็บท่าหรือ Portal site ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่รวมทุกช่องทางในชื่อของ www.GovChannel.go.th โดยภายในเว็บไซต์นี้จะพบกับทางเชื่อมไปสู่เว็บไซต์อื่น
.
ตู้บริการเอนกประสงค์ภาครัฐ ด้วยการดำเนินงานอย่างเข้มเข็งจากทุกหน่วยราชการแม้คนที่อยู่พื้นที่ห่างไกลไม่มีคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนแต่ก็สามารถใช้ข้อมูลและบริการภาครัฐใกล้บ้านได้ด้วย
.
รัฐบาลมุ่งมั่นสร้างมิติใหม่ในการบริหารประเทศเพื่อการยกระดับคุณภาพชีวิต และการเข้าถึงบริการสาธารณะของประชาชนทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกท้องถิ่น อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการที่จำเป็นต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนรวมทั้งให้ประชาชนสามารถรับมือกับโลกที่เปลี่ยนไป รัฐบาลดิจิทัลจึงเป็นการขับเคลื่อนที่สำคัญร่วมกับคนในชาติ เพื่อก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 อย่างมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน
|