โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2563/64
ราคาประกันรายได้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ณ ความชื้น 14.5% กิโลกรัมละ 8.50 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ และไม่ซ้ำแปลง
หลักเกณฑ์
- เกษตรกรผู้มีสิทธิได้รับการชดเชย ต้องขึ้นทะเบียนเป็นผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กับกรมส่งเสริมการเกษตร โดยแจ้งเพาะปลูกระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2563-31 พฤษภาคม 2564
- สามารถขึ้นทะเบียนได้แปลงละ 1 ครั้งเท่านั้นในรอบการผลิตดังกล่าว
- ระยะเวลาโครงการเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 – วันที่ 30 เมษายน 2565
- รัฐจะเริ่มจ่ายวันที่ 20 พฤศจิกายน 2563 และจะจ่ายต่อไปทุกวันที่ 20 ของเดือน
ข้อยกเว้น
- หากเป็นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่แจ้งขึ้นทะเบียนเพาะปลูกเพื่อผลิตเป็นเมล็ดพันธุ์จะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้
มาตรการคู่ขนานโครงการฯ รวม 5 มาตรการ
1. โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยสถาบันเกษตรกร ปี 63/64 เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการรวบรวมรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเกษตรกรในช่วงที่ผลผลิตออกมามาก วงเงินสินเชื่อ 1,500 ล้านบาท โดยใช้แหล่งเงินทุนจาก ธ.ก.ส.ดอกเบี้ย 4% ต่อปี คิดดอกเบี้ยจากผู้กู้ 1% ต่อปี และรัฐบาลจะเป็นผู้ชดเชยดอกเบี้ย 3% ต่อปี ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2563-วันที่ 30 มิถุนายน 2565
2. โครงการชดเชยดอกเบี้ยในการเก็บสตอกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 63/64 วงเงินสินเชื่อ 1,500 ล้านบาท รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ย 3% ต่อปี ตามระยะเวลาที่เก็บ สต็อกไว้ 60-120 วัน โดยใช้งบประมาณจากคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร
3. การบริหารจัดการการนำเข้า โดยกำหนดช่วงเวลานำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สำหรับผู้นำเข้าทั่วไป ควบคุมการขนย้ายในพื้นที่ติดชายแดน กำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลีต่อการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 1:3 และการตรวจสอบการรับรอบนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้าน
4. การดูแลความเป็นธรรมในการซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยให้ผู้รับซื้อแสดงราคาจุดรับซื้อที่ความชื้น 14.5 % และ 30 % พร้อมแสดงตารางการเพิ่ม-ลด ราคาตามเปอร์เซ็นต์ความชื้น และกำหนดให้ใช้เครื่องชั่งน้ำหนัก เครื่องวัดความชื้นที่มีมาตรฐาน
5. การดูแลความสมดุล โดยแจ้งปริมาณการครอบครอง การนำเข้า สถานที่เก็บและการตรวจสอบสต็อก ดูน้อยลง