ป.ป.ส.ภาค 6 จัดประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินการตามมาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ในสถานประกอบกิจการขนส่งสินค้าหรือพัสดุภัณฑ์

วันที่ 10 มีนาคม 2563 เวลา 13.30 น.นายพงษ์พิทยา ธนไกรศรีทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานการประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินการ ตามมาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ในสถานประกอบกิจการขนส่งสินค้าหรือพัสดุภัณฑ์ พื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ณ ห้องประชุมเพชรบุระ ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์

โดยมี นายวัฒนา เกิดผล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 6 กล่าวถึงความสำคัญและวัตถุประสงค์ของการจัดประชุมครั้งนี้ พร้อมทั้ง ผู้แทนนายอำเภอ, ผู้แทนสถานีตำรวจภูธรต่างๆ, บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด มหาชน, ผู้แทนบริษัทขนส่งภาคเอกชน,และผู้แทนระบบขนส่งทางคมนาคม ร่วมประชุม

นายพงษ์พิทยา ธนไกรศรีทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ ยังคงมีการลักลอบลำเลียงขนส่งยาเสพติด

โดยใช้รูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะโดยรถยนต์ส่วนบุคคล รถโดยสารประจำทาง รถไฟ รถรับจ้างขนส่งสินค้าหรือการส่งผ่านระบบโลจิสติกส์ รวมถึงการขนส่งผ่านช่องทางการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ที่ส่งทางไปรษณีย์ ในการกระจายยาเสพติดไปยังผู้เสพและผู้ค้ารายย่อย ในหมู่บ้านหรือชุมชนมากขึ้น โดยใช้ช่องทางโชเชียลมีเดียต่าง ๆ ในการติดต่อซื้อขาย ซึ่งจากสถิติการจับกุมผู้กระทำความผิดที่ส่งยาเสพติดผ่านช่องทางดังกล่าวมีมากขึ้นเป็นลำดับ

นายวัฒนา เกิดผล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 6 กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก, กรมศุลกากร ,การรถไฟแห่งประเทศไทย, บริษัท ขนส่ง จำกัด ,และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด รวม ๖ หน่วยงาน ได้ร่วมลงนามใน "บันทึกข้อตกลงว่าด้วยการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการขนส่ง" เพื่อเตรียมความพร้อมและเตรียมการในการป้องกันมิให้สถานประกอบการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ถูกใช้เป็นช่องทางในการลักลอบลำเลียงยาเสพติด รวมไปถึงการให้ความร่วมมือที่จะเผยแพร่สื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนตระหนักถึงโทษและพิษภัยของยาเสพติด ผ่านช่องทางสื่อของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลสถานประกอบการดังกล่าว ทั้งบนรถโดยสารประจำทาง สถานีขนส่งผู้โดยสาร และสถานีรถไฟทั่วประเทศ ซึ่งผลจาก

บันทึกข้อตกลงดังกล่าว นำไปสู่ความร่วมมือในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อ

การป้องกันมิให้สถานประกอบการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ถูกใช้เป็นช่องทางใน

การลักลอบลำเลียงยาเสพติดและได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็น

อย่างดี ในการเข้าตรวจสอบการลักลอบส่งยาเสพติดผ่านช่องทางดังกล่าว

โอกาสนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้กล่าวเน้นย้ำ ให้ผู้ประกอบการขนส่งพัสดุ ทั้งทางระบบขนส่งคมนาคมและผู้ประกอบการบริษัทรับส่ง พัสดุภัณฑ์ภาคเอกชน ร่วมมือกันดำเนินการสกัดกั้นการลักลอบขนยาเสพติดผ่านช่องทางการรับจ้าง

ขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ อย่างมีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้น และควรติดตั้งกล้องวงจรปิด ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ไว้เพื่อตรวจสอบตามข้อกฎหมาย และควรเก็บรายละเอียดข้อมูลผู้รับผู้ส่งพัสดุภัณฑ์ ไว้เพื่อการตรวจสอบ จำนวน 180 วัน

ทั้งนี้ หากประชาชนพบเบาะแสในการลักลอบขนส่งยาเสพติดตามช่องทางดังกล่าว สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน 1386

______________________________

เพลินจิต สวนศิลป์พงศ์ : เรียบเรียง

ปรีชา ศรีบุปผา : สื่อข่าว/ภาพ

สมจิตร ตาลสุก : สื่อโซเชียล