หมวดหมู่ : ข่าวท้องถิ่นเพชรบูรณ์บ้านเรา
หัวข้อ : สนง.เกษตรเพชรบูรณ์ เตือนเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ระมัดระวังโรคใบด่างในมันสำปะหลัง
โดย : ฝ่ายข่าว
อ่าน : 806
อังคาร ที่ 29 เดือน กันยายน พ.ศ.2563
พิมพ์ 

     นายอนันต์ ตั่นฉ้วน เกษตรจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า สำนักงานเกษตรจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยกลุ่มอารักขาพืช มีความห่วงใยเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง เนื่องจากการระบาดของโรคใบด่างมันสําปะหลัง ซึ่งกำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ โดยสถานการณ์การระบาดของโรคใบด่างมันสําปะหลัง จากการสำรวจในช่วงเดือนสิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา พบว่า มีการระบาดใน 29 จังหวัด รวมกว่า 3 แสนไร่ จากพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังทั่วประเทศ ทั้งหมด 8 ล้านไร่ โดยจังหวัดที่พบการระบาดมากที่สุด คือ นครราชสีมา จำนวนกว่า 242,000 ไร่ (ข้อมูล ณ วันที่ 5 สิงหาคม 2563)
     ส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ พบการระบาดในอำเภอทางตอนใต้ คือ อำเภอวิเชียรบุรีและบึงสามพัน โดยสาเหตุเกิดจากการนำท่อนพันธุ์ที่เป็นโรคมาปลูก ซึ่งนำมาจากจังหวัดนครราชสีมา โดยพบการระบาดในพื้นที่ ตำบลบ่อรัง ตำบลภูน้ำหยด ตำบลซับน้อย ตำบลวังใหญ่ และตำบลพุขาม อำเภอวิเชียรบุรี/ และ ตำบลวังพิกุล อำเภอบึงสามพัน
    ทั้งนี้ เกษตรจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดเพชรบูรณ์ ติดตามสถานการณ์ และให้คำแนะนำ เน้นย้ำให้เกษตรกรทำลายต้นมันสำปะหลังจากการระบาดของโรคใบด่างมันสำปะหลัง โดยในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้เกษตรกรทำลายต้นที่เป็นโรค โดยการถอนต้นใส่ถุงดำตากแดดและนำไปเผา หรือถอนต้นขุดหลุมฝัง และพ่นสารเคมีฆ่าหญ้า พร้อมทั้งพ่นสารเคมีกำจัดแมลงหวี่ขาว ซึ่งเป็นแมลงพาหะของโรคใบด่างมันสำปะหลัง ในพื้นที่ที่พบการระบาดแล้ว
     สำหรับ วิธีการทำลายต้นมันสำปะหลังที่เป็นโรคตามหลักวิชาการ ที่กรมส่งเสริมการเกษตรแนะนำคือ จะใช้วิธีการฝังกลบและราดด้วยสารเคมี กำจัดวัชพืช อะมีทรีน 80% WG/ ซัลเฟนทราโซน 48% SC/ ไดยูรอน 80% WP อย่างใดอย่างหนึ่งก่อน จึงกลบด้วยดินหนาไม่น้อยกว่า 0.5 ม. หรือ วิธีใส่ถุง/กระสอบ โดยนำต้นมันสำปะหลังที่เป็นโรคตัดเป็นท่อนใส่ถุง / กระสอบมัดปากให้แน่นแล้วนำไปตากแดดไม่น้อยกว่า 7 วัน หรือจนกว่าต้นมันสำปะหลังจะตาย หรือ วิธีบดสับโดยนำต้นมันสำปะหลังที่เป็นโรคเข้าเครื่องบดป่นหรือเครื่องสับย่อย โดยปูพลาสติกรองพื้นให้เศษต้นที่ถูกทำลายอยู่บนพลาสติก แล้วคลุมกองด้วยพลาสติกตากแดดให้ต้นมันสำปะหลังแห้งตาย และพ่นสารฆ่าแมลงเพื่อกำจัดแมลงหวี่ขาวยาสูบซึ่งเป็นพาหะนำโรค นอกจากนี้ เกษตรกรต้องใช้ท่อนพันธุ์สะอาดจากแหล่งปลูกที่ไม่พบโรคระบาดหรือการผลิตท่อนพันธุ์สะอาดใช้เองในชุมชน เพื่อตัดวงจรการระบาดได้ทั้งหมด
    ส่วนการพ่นสารเคมีกำจัดเเมลงหวี่ขาวยาสูบ แนะนำดังนี้
♦️ อิมิดาโคลพริด 70% WG อัตรา 12 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ
♦️ ไดโนทีฟูเเรน 10% SL อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ
♦️ ไทอะมีโทเเซม 25% WG อัตรา 12 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
    ทั้งนี้ หากเกษตรกรต้องการทราบข้อมูลของโรคใบด่างมันสำปะหลัง หรือแจ้งสถานการณ์ในพื้นที่ สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานเกษตรจังหวัด หรือสำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ทุกแห่ง สนง.เกษตรจังหวัดเพชรบูรณ์ จึงฝากเตือนให้เกษตรกร เฝ้าระวัง โดยการหมั่นสำรวจแปลง และหากมีข้อสงสัยให้ปรึกษาที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่งใกล้บ้าน ทางเกษตรอำเภอจะได้ดูแลอย่างใกล้ชิดต่อไป
-------------------------------------------------------------
เพลินจิต สวนศิลป์พงศ์ : เรียบเรียง
สนง.เกษตร จ.พช. & ปรีชา ศรีบุปผา : ภาพ
สวท.เพชรบูรณ์