หมวดหมู่ : ข่าวท้องถิ่นเพชรบูรณ์บ้านเรา
หัวข้อ : ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ ดำเนินการเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาหนี้นอกระบบ
โดย : ฝ่ายข่าว
อ่าน : 1157
อังคาร ที่ 10 เดือน สิงหาคม พ.ศ.2564
พิมพ์ 

ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ ดำเนินการเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาหนี้นอกระบบ


         ปัญหาหนี้นอกระบบ นับเป็นอีกปัญหาหนึ่งของประชาชน ที่สร้างความวิตกกังวลเป็นอย่างมากในส่วนของประชาชนที่อยู่ในฐานะฝ่ายที่เป็นลูกหนี้
โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโรค COVID-19 ที่มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในหลายภาคส่วน ทั้งภาคธุรกิจ ภาคการเกษตรและอื่นๆ อาทิ มีสถานประกอบการหลายแห่งต้องปิดตัวลง ทำให้ประชาชนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน,ผลผลิตด้านการเกษตรจำหน่ายไม่ได้ราคา การขนส่งสินค้าไม่สามารถดำเนินการได้อย่างปกติ ,ฯลฯ ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้ภาคครัวเรือน ที่อาจลดลงเป็นอย่างมาก รายได้อาจไม่เพียงพอกับภาระค่าใช้จ่าย ทำให้ต้องใช้บริการกู้ยืม ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งในระบบและนอกระบบ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน ในครัวเรือน โดยในส่วนของผู้ที่ไม่สามารถทำการกู้ยืมในระบบได้  จึงมีความจำเป็นต้องไปใช้บริการกู้ยืมนอกระบบ ซึ่งบางกรณีอาจได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบ

         นายพิเชฐ บางณรงค์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของสำนักงานจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ในส่วนของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาหรือความเดือดร้อนจากหนี้นอกระบบของประชาชน ในจังหวัดเพชรบูรณ์  โดยมีผู้เดือดร้อนร้องเรียนมาจากพื้นที่ทุกอำเภอ แต่จำนวนเรื่องร้องเรียนดังกล่าวมีไม่มากนัก ประมาณ 10 - 20 เรื่องต่อปี โดยช่องทางการร้องเรียน มีทั้งร้องเรียนมายังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์โดยตรง และร้องเรียนผ่านช่องทางรับเรื่องเรียนในระบบออนไลน์ของสํานักนายกรัฐมนตรี แล้วสำนักนายกรัฐมนตรีส่งเรื่องตามขั้นตอนมายังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด โดยประเด็นเรื่องที่ร้องเรียนเกี่ยวกับหนี้นอกระบบนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด (ซึ่งกฎหมายกำหนดไว้อัตราดอกเบี้ยการกู้ยืมเงิน ต้องไม่เกินร้อยละ 15 บาทต่อปี) แต่เจ้าหนี้บางรายกลับคิดดอกเบี้ยเป็นอัตราต่อเดือน ในอัตราที่สูงกว่ากฏหมายกำหนดไว้หลายเท่า หรือร้องเรียนเกี่ยวกับกรณีการเก็บหนี้รายวัน ที่มีการใช้วาจาในเชิงขู่กรรโชก แต่ทั้งนี้จำนวนเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับหนี้นอกระบบของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ มีปริมาณน้อย เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณเดือนละ 1-2 เรื่อง

          สำหรับการดำเนินการของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์นั้น เมื่อได้รับเรื่องร้องเรียน ก็จะดำเนินการโดยเร่งด่วนตามขั้นตอนภายในของหน่วยงาน จากนั้นประสานส่งต่อเรื่องให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ จะดำเนินการส่งต่อให้กับตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์รับเรื่องแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาว่า ผู้ร้องเรียนอยู่ในพื้นที่ใด แล้วจะดำเนินการส่งต่อเรื่องร้องเรียนนั้นให้กับสถานีตำรวจภูธร (สภ.)ในพื้นที่นั้นๆเพื่อดำเนินการต่อไป เมื่อสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ได้รับเรื่อง ก็จะดำเนินการพิจารณาตามขั้นตอน ซึ่งโดยส่วนใหญ่เรื่องก็จะถูกส่งต่อไปยังสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิฯประจำจังหวัด ซึ่งจังหวัดเพชรบูรณ์ มีจำนวน  3 แห่ง คือ สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดเพชรบูรณ์, สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดเพชรบูรณ์ (สาขาวิเชียรบุรี) ,และสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดเพชรบูรณ์ (สาขาหล่มสัก)  ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จะให้คำแนะนำช่วยเหลือประชาชน ซึ่งให้บริการตามอำนาจหน้าที่โดยไม่มีการเรียกรับเงินหรือผลประโยชน์อื่นใดทั้งสิ้น ในการให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับการปรึกษาข้อกฎหมายแก่ประชาชน รวมทั้งการไกล่เกลี่ยปัญหาหนี้นอกระบบ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไกล่เกลี่ยเพื่อประนอมหนี้นอกระบบของจังหวัดต่อไป

         ทั้งนี้หลังจากดำเนินการตามกระบวนการต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ทางตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับเรื่องร้องเรียนหนี้นอกระบบ ดังกล่าวมาจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ตั้งแต่ตอนแรก  จะได้รายงานผลการดำเนินงานให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ทราบภายใน 30 วัน โดยในส่วนของเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาหนี้นอกระบบ ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ดำเนินการนั้น ผลการดำเนินการจบลงด้วยความเรียบร้อย ทั้งฝ่ายเจ้าหนี้และลูกหนี้สามารถไกล่เกลี่ยและตกลงกันได้ ทำให้ลูกหนี้คลายความทุกข์และความวิตกกังวลลงได้

_____________________
เพลินจิต สวนศิลป์พงศ์ : ข่าว
สวท.เพชรบูรณ์
แหล่งข้อมูล: ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์