เรื่อง ธุรกิจสตาร์ทอัพไทยก้าวไกลระดับโลก
ที่ผ่านมา รัฐบาลพยายามพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้ดีขึ้นผ่านการกระตุ้นให้เกิดธุรกิจสตาร์ทอัพ โดยธุรกิจสตาร์ทอัพ (Startup) คือธุรกิจที่ถูกออกแบบมาให้เติบโตอย่างรวดเร็วมาตั้งแต่แรก ตั้งแต่ทีมงาน โครงสร้างธุรกิจ ไปจนถึงวิธีการใช้เงิน และการทำตลาดมีเป้าหมายในการดำเนินการธุรกิจให้มีรายได้เติบโตอย่างน้อย ปีละ 100๐ % ต่างจาก ธุรกิจ “SME” (Small Medium Enterprises) ที่มีเป้าหมายในการเติบโต อยู่ที่ประมาณปีละ 30% - 50% หรือหากเป็นช่วงเกิดใหม่ก็อาจอยู่ที่ปีละ 100% - 200% เป็นอย่างมาก ซึ่งธุรกิจสตาร์ทอัพจะต้องสามารถสร้างสิ่งที่คนจำนวนมากต้องการ และจัดจำหน่ายมันให้ทั่วถึงคนเหล่านั้นได้
โดยรัฐบาลพยายามผลักดันให้ผู้ประกอบการนำความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมไปสร้างสรรค์เป็นผลงานหรือสินค้าและบริการออกสู่ตลาด เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ในขณะเดียวกันรัฐบาลก็พยายามเปลี่ยนแปลงภาคการเกษตรรูปแบบเดิม เป็นเกษตรสมัยใหม่ โดยนำหลักการเดียวกับการพัฒนาสตาร์ทอัพไปปรับใช้ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม จากการผลักดันธุรกิจสตาร์ทอัพของรัฐบาล จนปัจจุบันธุรกิจสตาร์ทอัพไทยมีการพัฒนาอย่างมากและเมื่อไม่นานมานี้ บริษัท สยามออร์แกนิค จำกัด ธุรกิจสตาร์ทอัพไทยยังสามารถคว้ารางวัลที่ 1 จากการประกวดโมเดลธุรกิจสตาร์ทอัพ ชีวาส เวนเจอร์ จากทั่วโลก รวม 30 ธุรกิจ ซึ่งจัดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา มาครองได้
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชื่นชมความสำเร็จของบริษัท สยามออร์แกนิค จำกัด ในการชนะการประกวดในครั้งนี้ โดยมุ่งหวังให้เป็นต้นแบบของการพัฒนาธุรกิจสตาร์ทอัพและสร้างแรงบันดาลให้เกษตรกรหันไปปรับวิธีคิด เปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อก้าวไปสู่สิ่งที่ดีกว่า สำหรับบริษัท สยามออร์แกนิค ได้ทำงานร่วมกับชาวนาไทยเพื่อปลูกข้าวอินทรีย์สายพันธุ์ใหม่ที่ปราศจากการตัดต่อพันธุกรรม (GMO) ใช้ชื่อว่า “แจ็สเบอร์รี่” สีม่วงเข้มคุณภาพดี ผลผลิตจากงานวิจัยของคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องเมล็ดพันธ์
ทั้งนี้ เรื่องปัญหาการตลาด ได้ใช้วิธีให้ราคารับซื้อจากเกษตรกรสูงกว่า ข้าวหอมมะลิ ถึง 2 เท่า และรับประกันการรับซื้อข้าวทุกเมล็ด เพื่อจูงใจให้ชาวนามาร่วมเครือข่าย สำหรับปัญหาเรื่องผลผลิตต่ำ ได้แก้ปัญหาโดยการเลือกใช้ปุ๋ยที่มีคุณภาพ ให้น้ำอย่างเหมาะสม และอบรมให้ความรู้เกษตรกรอย่างต่อเนื่อง ผลผลิตทั้งหมด มุ่งเจาะตลาดบนหรือลูกค้าที่มีรายได้สูง และส่งออกเป็นหลัก พัฒนารูปลักษณ์ให้ทันสมัย ทำให้ชาวนามีรายได้ที่ดีขึ้น
โดยการดำเนินงานของสยามออร์แกนิคในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ช่วยให้ผลผลิตของเกษตรกรเพิ่มขึ้นปีละประมาณร้อยละ 40 มีเกษตรกรในเครือข่าย 600 ราย ซึ่งมีรายได้สูงกว่าเกษตรกรรายอื่น ๆ ถึง 8 เท่า โดยปี 2559 เพียงปีเดียวเกษตรกรกลุ่มนี้มีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 8 ล้านบาท ซึ่งหากภาครัฐ ภาคเอกชน เกษตรกร ได้ร่วมมือกันสร้างธุรกิจสตาร์ทอัพในลักษณะเดียวกันนี้ ก็จะสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนและประเทศชาติได้มากขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศไทยเจริญก้าวหน้าทัดเทียมนานาประเทศ
โดย ปัทมาวดี เหลือสม
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก
|