เรื่อง   อีโคทัวริซึ่ม เทรนด์ท่องเที่ยวมาแรง

คุณดวงกมล จันสุริยวงศ์ ที่ปรึกษาสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และ    ผจญภัย (ทีต้า) เผยว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ความสำคัญและตระหนักรู้เรื่องกรีน    ทัวริซึ่ม โดยเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางท่องเที่ยวพร้อมดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมให้กับโลกมากกว่าท่องเที่ยวสร้างความเพลิดเพลินและถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกเหมือนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่สนใจวางแผนเดินทางท่องเที่ยวแบบอีโคทัวริซึ่ม   มากขึ้น บริษัททัวร์กลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวีได้ติดต่อบริษัททัวร์ไทยเพื่อให้ประเทศไทย      เป็นต้นแบบการทำตลาดอีโคทัวริซึ่มโดยเรียนรู้การจัดรูปแบบกิจกรรม วิธีการนำเสนอ พร้อมร่วมสำรวจเส้นทาง อีโคทัวริซึ่มส่วนใหญ่เป็นการท่องเที่ยวที่เชื่อมต่อกับชุมชนสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการผลักดันให้การท่องเที่ยวชุมชนเติบโต สร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและคนในท้องถิ่น และยังช่วยให้กิจการทัวร์อยู่รอดจากพฤติกรรม   การเดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเอง แต่อิโคทัวร์ยังต้องพึ่งพาบริษัททัวร์ในการประสานลงพื้นที่อย่างไรก็ตาม อีโคทัวริซึ่มมีส่วนช่วยพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เข้าถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น วิถีชีวิตความเป็นอยู่ เช่น การตำน้ำพริก การเก็บขยะ ซึ่งถูกมองว่าเป็นแพ็กเกจที่ไม่น่าจะขายได้ แต่มีกระแสตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยวเอเชียและอาเซียน เพราะส่วนใหญ่ต้องการท่องเที่ยว  พร้อมสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต ชื่นชอบการเรียนรู้วัฒนธรรมของชาตินั้น ๆ ผ่านการท่องเที่ยวชุมชน

ทางด้านคุณนีรชา วงส์มาศา นายกสมาคมทีต้า เผยว่า แนวโน้มการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัยในปีนี้ (2561) คาดว่าจะเติบโตกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งประเทศไทยเติบโตได้ดีกว่าภาพรวมการเติบโตโลกเฉลี่ยที่ 10 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากในปี 2561 รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนอย่างจริงจัง ทั้งมาตรการลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวเมืองรอง1.5 หมื่นบาท/คน การเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวชุมชน เป็นต้น การท่องเที่ยวรูปแบบดังกล่าว ภาคเอกชนได้พยายามพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวมานานกว่า 20 ปี แต่ยังเป็นการจำกัดการท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม หากรัฐบาลเข้ามาส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าการท่องเที่ยวเชิงอีโคทัวริซึ่มคนไทยจะให้ความนิยมไม่แพ้นักท่องเที่ยวต่างชาติ         ในอนาคต นักท่องเที่ยวกลุ่มอีโคทัวริซึ่มถือเป็นตลาดที่มีคุณภาพและมีกำลังซื้อสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป และมีความพร้อมที่จะท่องเที่ยวชุมชนพร้อมร่วมพัฒนาด้วย

กระแสการเดินทางท่องเที่ยวแบบอึโคทัวริซึ่ม หรือการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัยที่พ่วงด้วยวัฒนธรรมประจำชาติ มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปี    ที่ผ่านมา ซึ่งความชื่นชอบได้ขยายวงกว้างมากขึ้น และไม่ได้จำกัดอยู่ในกลุ่มนักท่องเที่ยวจากตลาดยุโรปเท่านั้น แต่ยังขยายไปยังนักท่องเที่ยวตลาดเอเชียและอาเซียนด้วย โดยเฉพาะประเทศซีแอลเอ็มวี ประกอบด้วย ประเทศกัมพูชา, สปป.ลาว, เมียนมา และประเทศเวียดนาม.


โดย พรรณี ตั้งใจสถาปัตย์
เรียบเรียงโดย สมจิตร ตาลสุก